#Timing และ #วาสนา
.
ย้อนกลับไปใน Thai League ฤดูกาลที่แล้ว 2022-2023 ในช่วงท้ายเลกแรก ซึ่งทีมเรานั้นประสบปัญหาผลงานย่ำแย่อีกทั้งต้องไปแข่งเกมเหย้านอกบ้านที่สนามกีฬาเชียงใหม่ 700 ปี ตลอดทั้งฤดูกาลเพราะทางสนามแม่กวงยังติดตั้งไฟไม่เสร็จต้องรอตามขั้นตอนตามระยะเวลาของงบทางราชการ จึงจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงเพื่อให้เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น
.
จุดแรกคือการหาโค้ชใหม่มาคุมทีมเพื่อแก้ไขสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในตอนนั้นให้ได้ก่อนเป็นอย่างแรก โดยที่เราได้โค้ชที่มีดีกรีในไทยลีกอย่าง "อเล็กซานเดร กาม่า" กุนซือชื่อดังชาวบราซิล เข้ามาคุมทัพอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2565 ซึ่งเป็นช่วงท้ายของเลกแรกก่อนที่จะต้องมาตั้งหลักกันใหม่เพื่อแก้ไขสถานการณ์ในช่วงเลกสอง
.
"โค้ชกาม่า" ตอบรับในการเข้ามาคุมทีมเล็กๆอย่างทีม "ลำพูน วอริเออร์" ที่มีผลงานไม่ดีในช่วงเลกแรกนั้นนับว่าเป็นงานที่ท้าทาย เพราะปกติ "โค้ชกาม่า" จะได้คุมทีมใหญ่ๆซึ่งมีทรัพยากรดีๆมีนักเตะเกรดดังๆจนสามารถคว้าแชมป์ไทยลีกมาให้กับหลายๆสโมสร
.
"Timing" หรือจังหวะช่วงเวลาที่ลงตัว เมื่อ "โค้ชกาม่า" ได้มีโอกาสเข้ามาคุมทีม "ลำพูน วอริเออร์" ก่อนในช่วงทีมอื่นๆก็ยังมีโค้ชประจำทีมซึ่งยังไม่มีที่ว่างตอนช่วงท้ายเลกแรก และในช่วงเลกสองหลายๆทีมต้องการเสริมทัพและมีการมองถึงการจะเปลี่ยนโค้ชคนใหม่ที่จะเข้ามาคุมทีมเพื่อให้ผลงานดีขึ้นเช่นกัน ก็เลยเป็น "วาสนา" ของทีมเราที่ได้ "โค้ชกาม่า" เข้ามาร่วมงานก่อน
.
หลายๆคนเคยพูดว่า ไทยลีก เป็นลีกที่กินโค้ช คือ ลีกที่มีการเปลี่ยนแปลงโค้ชบ่อยๆ อาจจะเพราะสามารถปลดและตั้งโค้ชใหม่ได้ทุกเวลาเพราะไม่ต้องมาอ้างอิงเหมือนช่วงตลาดซื้อขายนักเตะ เลยทำให้หลายๆทีมก็ย่อมมองหาโค้ชใหม่แต่อาจจะหน้าเก่าสลับหมุนเวียนกันไปมา หากเอ่ยชื่อ "โค้ชกาม่า" คิดว่าในตอนนี้หลายๆทีมไม่ว่าจะเป็นทีมใหญ่หรือทีมเล็กก็คงอยากจะได้ตัวมาคุมทีมแน่นอนแต่ติดที่ยังไม่ว่างเท่านั้นเอง
.
ปัญหาบางอย่างอาจจะแก้ได้ด้วยเงิน เช่น การเสริมทัพนักเตะดีๆที่ค่าตัวอาจจะแพง หรือ โค้ชที่มีคุณภาพดีและทีมงาน แต่ปัญหาบางอย่างก็ต้องอาศัยเวลา เพื่อพัฒนาจุดบกพร่องปรับเปลี่ยนรูปแบบฝึกฝนซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนสามารถเปลี่ยนแปลงขึ้นมาให้ดีได้ตามลำดับ ก็ต้องอาศัยในการทำงานร่วมกันไม่ว่าจะเป็น โค้ช หรือ นักเตะ อีกทั้งเจ้าหน้าที่ทุกๆคนทุกๆตำแหน่งในทีม
.
เมื่อส่วนผสมเริ่มลงตัว ผลงานก็ย่อมออกมาเป็นที่ประจักษ์ แต่เกมกีฬาก็ย่อมมีผล แพ้ ชนะ หรือ เสมอ ถึงแม้ข้อผิดพลาดบ้างก็ต้องกลับมาแก้ไข อีกหนึ่งสิ่งสำคัญก็คือเสียงเชียร์จาก "แฟนบอล" ไม่ว่าจะเชียร์อยู่ที่บ้านหรือเชียร์อยู่ข้างสนามที่จะคอยเป็นกำลังใจให้กับนักเตะที่ทำการแข่งขัน สามารถปลุกเร้าอารมณ์ให้ฮึกเหิมในการต่อสู้ได้เป็นอย่างดี ยิ่งเล่นในบ้านของตัวเองย่อมมีผลทางจิตวิทยากับทีมคู่แข่ง "หากพ่ายแพ้ ก็จงให้กำลังใจ หากชนะ เราก็ชนะไปด้วยกัน"
.
สำหรับ Thai League ฤดูกาล 2023-2024 นี้ ก็ขอให้บรรลุไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ อาจจะใกล้เคียงจะมากหรือน้อยก็ขอแค่ทำให้ดีที่สุดก็พอ เพราะสุดท้ายผลงานที่ออกมาก็จะมีคำตอบในของตัวมันเอง "สู้สุดใจ ยังไงก็เชียร์"
.
ผลงานของ "โค้ชกาม่า" ที่มาคุมทีมตั้งแต่ปี 2022-2024
คุมทั้งหมด 44 นัด (รวมทุกถ้วย)
ชนะ 22 นัด
เสมอ 9 นัด
แพ้ 13 นัด
.
.
#Thaileague
#ChangFACup
#RevoCUP
#LamphunWarriors
#ลำพูนวอริเออร์
#ราชันโคขาว
#PossibleLamphun
#LamphunWarriorsFanClub
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น